Header Ads

ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ขานรับนโยบายรัฐ ยืนยันมีสินค้าเพียงพอรองรับความต้องการ ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา


กรุงเทพฯ, 4 สิงหาคม 2568 – ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าขานรับนโยบายภาครัฐ ประกาศความพร้อมในการดำเนินมาตรการตามแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ ด้วยการบริหารจัดการสินค้าและระบบขนส่งอย่างใกล้ชิด เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี และจันทบุรี ซึ่งมีสาขาท็อปส์รวมกว่า 5 แห่ง โดยได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการวางแผนจัดการคลังสินค้าและการกระจายสินค้าอย่างเป็นระบบให้สามารถจัดส่งและกระจายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง และเพียงพอกับความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที

 

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า "ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีประกาศขอความร่วมมือจากภาคเอกชนให้ร่วมประเมินสถานการณ์และวางแผนการจัดส่งสินค้าให้สามารถกระจายเข้าสู่พื้นที่อย่างเพียงพอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา จากสถานการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ท็อปส์ ในฐานะองค์กรค้าปลีกที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์ ได้เดินหน้าขานรับและดำเนินตามมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ อาทิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี และจันทบุรี ซึ่งมีสาขาท็อปส์รวมกว่า 5 แห่งนั้น บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังและตรวจสอบสต็อกสินค้าอย่างใกล้ชิด และพร้อมสั่งเติมทันทีหากพบว่าสินค้ามีไม่เพียงพอ ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีรายงานสินค้าขาดตลาด อีกทั้งได้วางแผนโลจิสติกส์อย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถขนส่งสินค้าเข้าสู่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างปลอดภัย รวมถึงได้เพิ่มปริมาณสินค้าที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงแล้วก็ตาม"

 

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่ามีการซื้อสินค้าเป็นลอตใหญ่ทั้งเพื่อกักตุนและนำไปบริจาคในบางพื้นที่ นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนเลือกซื้อกลุ่มสินค้าที่เก็บรักษาได้นานและบริโภคได้สะดวกมากขึ้น อาทิ น้ำดื่ม ข้าวสาร ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงรส และอาหารสำเร็จรูปประเภทต่างๆ รวมถึง ยากันยุงที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้อพยพออกจากภูมิลำเนาที่มีความสุ่มเสี่ยง ท็อปส์จึงได้จัดเติมสินค้าอย่างต่อเนื่องในทุกสาขาที่เกี่ยวข้อง

 

นายสเตฟาน กล่าวเสริมว่า "เราขอยืนยันว่าสินค้ามีเพียงพอรองรับกับความต้องการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ครอบคลุมช่วงเวลาไปตลอดจนที่ประชาชนทยอยเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ"

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ เพื่อส่งต่อความห่วงใยแก่พี่น้องคนไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบ ท็อปส์ได้นำทีมพนักงานชาวท็อปสเตอร์ร่วมบริจาคโลหิตเพื่อสนับสนุนศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในการสำรองโลหิตช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ พร้อมทั้งส่งมอบของใช้จำเป็นสำหรับอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน อาทิ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพู ผ้าอนามัย ยากันยุง ผ้าอ้อมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ตลอดจนของใช้ในครัวเรือน อาทิ น้ำมันพืช น้ำปลา และน้ำยาล้างจาน เป็นต้น ให้แก่ศูนย์พักพิงในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ ครอบคลุมกว่า 2,000 ครัวเรือน รวมถึงพนักงานและครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบ รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท

 

"ท็อปส์ยึดมั่นในแนวทางการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคมเมื่อเกิดภัยพิบัติหรือสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ '12 Missions to Sustainable Retail' ภายใต้แนวคิด 'Small Acts Together' ของท็อปส์ ที่มุ่งมั่นลงมือทำสิ่งเล็กๆ เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่" นายสเตฟาน กล่าวสรุป

 

###

 

 

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล 

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ" หรือ "เซ็นทรัล รีเทล") เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก รวมทั้งธุรกิจค้าส่ง สินค้าหลากหลายประเภท ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-Format Multi-Category Omnichannel Retail และ Wholesale Platform) ในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม บริษัทฯ มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,844 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568) อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร  ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต มินิซูเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ  เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์ เดลี่ โก โฮลเซลล์  ท็อปส์แคร์  ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี  รวมทั้ง เฮลธ์แอนด์ เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี ในประเทศไทย ส่วนประเทศเวียดนาม ได้แก่ บิ๊กซี/ โก (GO!) ท็อปส์ มาร์เก็ต มินิ โก (go!) และ ลานชี มาร์ท (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ  ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 43 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล 
ปนัดดา (ชมพู่) โทร.
092-946-6954

พลอยฉาย (พลอย) โทร. 095-559-5538

ขวัญสุดา (ต้นอ้อ) โทร. 062-553-5465

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนติดต่อ

เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์ – JC&CO COMMUNICATIONS –

สิทธิกร ชิตเทพ  / +6694-331-6996 / sitdhikornc@jcco.co.th 

รัญชนา นพรัตน์ / +6684-636-1700 / runchanan@jcco.co.th

  เก็จมณี เหมทานนท์ / +6688-394-4210 / getmaneeh@jcco.co.th

    ** LINE OFFICIAL: @JCCOTHAILAND


--

Regards,

Media Relations Division
Public Relations Department
Email: newscenter@jcco.co.th 
LINE OFFICIAL: @jccothailand 

No comments

Powered by Blogger.